ริ้วรอย บนใบหน้า ถึงแม้จะอายุไม่มากแต่ก็สามารถมีได้เพราะมันนับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่มีใครอยากมีไว้ครอบครอง ซึ่งทั่วไปแล้วสามารถพบได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยแรกเริ่มจะเป็นเพียงแค่ริ้วรอยตื้น ๆ และพัฒนาเป็นริ้วรอยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพราะยิ่งมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่เจ้าริ้วรอยเหี่ยวย่นก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้คุณจะไม่สามารถหยุดยั้งกาลเวลาได้ แต่คุณสามารถลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ จะมีวิธีใดบ้างนั้นมาลองดูกันเลย
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากสาเหตุอะไร?
สาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าคือตัวเลขแห่งวัยที่เพิ่มมากขึ้นเพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะลดความสามาถในการผลิต อิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคอลลาเจนที่ร่างกายจะลดการผลิตลงในทุก ๆ ปี ทำให้ผิวเริ่มหย่อยคล้อยและเกิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า โดยคุณสามารถสังเกตได้ 4 บริเวณ ดังนี้
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว มักเกิดจากการแสดงอารมณ์บนใบหน้าเป็นประจำ
- ริ้วรอยบริเวณมุมปาก มักเกิดจากการสูญเสียวอลลุ่มในชั้นใต้ผิวหนัง
- ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือที่เราเรียกกันว่าตีนกา ซึ่งผิวหนังรอบดวงตาจะบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ จึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายมากที่สุด
- ริ้วรอยบริเวณทั่วใบหน้า เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามกาลเวลาสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาไม่ใช่แค่ตอนที่แสดงสีหน้าเท่านั้น ซึ่งจะเห็นชัดที่สุดบนบริเวณใต้ตา
นอกจากอายุแล้ว พฤติกรรมต่าง ๆ ก็สามารถก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้เหมือนกัน เช่น
- การนอนคว่ำหน้า ส่งผลให้ใบหน้าโดนกดทับกับหมอนตลอดทั้งคืนจึงเป็นสาเหตุที่ทำใหเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้
- การไม่ทาครีมกันแดด เพราะผิวหน้าอาจโดนรังสียูวีจากแดดทำร้ายและทำให้ผิวคล้ำเสียรวมถึงทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ บนในหน้าได้อีกด้วย
- การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ จะทำให้ผิวขาดน้ำและเสียความยืดหยุ่น จึงก่อให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้
- การเครียดจนเกินไป เพราะเมื่อคุณเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมรคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปทำลายคอลลานเจนใต้ผิว ส่งผลให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ นอกจากนี้การขมวดคิ้วแสดงท่าทางความเครียด ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหางตาได้เช่นกัน
วิธีลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
-
งดการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มากเกินไป
พฤติกรรมเหล่านี้คือสาเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า เพราะหากคุณดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป จะทำให้ผิวขาดน้ำและเสียความยืดหยุ่นได้ จึงก่อให้เกิดความเหี่ยวย่นและริ้วร้อยได้ง่าย นอกจากนี้การสูบบุหรี่จัดก็จะทำให้คอลลาเจนถูกทำลายได้ไวขึ้น ส่งผลให้หน้าแห้ง หน้าเหี่ยวและเกิดร่องลึกบริเวณใบหน้าได้
-
รู้จักวิธีจัดการกับความเครียด
เวลาเครียดคนเรามักจะขมวดคิ้วบ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งสาเหตุนี้ก็เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดริ้วรอยบนหน้าผากได้ ดังนั้นคุณควรรู้วิธีจัดการกับความเครียดเพื่อลดปัญหาริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นได้
-
ขัดผิวอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
การขัดผิวสามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ ทำให้ผิวได้เติมร่องลึกให้ดูตื้นและเรียบขึ้น รวมถึงยังเป็นการเปิดผิวเพื่อให้ครีมบำรุงต่าง ๆ ซึมซาบสู่ผิวได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
-
รับประทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ
การรับประทานวิตามินและแร่ธาตุจากผัก ผลไม้ เช่น คะน้ากะหล่ำปี ผักโขม อโวคาโด้ ฝรั่ง ส้ม ฯลฯ จะช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
-
นวดหน้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
การนวดหน้าจะช่วยกระตุ้นให้โลหิตหมุนเวียนได้ดีขึ้น โดยใช้ปลายนิ้ววนไล่จากแก้มลงมาที่คาง แล้ววนมาที่หน้าปากจนถึงขมับ ซึ่งจะช่วยให้เลือดลำเลียงทั้งสารอาหารและออกซิเจนเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ผิวหน้าจึงดูเต่งตึงมากขึ้น
-
หลีกเลี่ยงแสงแดด
รังสียูวีจากแสงแดด เป็นตัวทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างดี ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและไม่กระชับ ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกวันและหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลดริ้วรอยก่อนวัยที่อาจเกิดขึ้น
-
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย
ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูรอน AHA วิตามินซี และโคเอนไซม์คิวเทน จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว รวมถึงลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ริ้วรอยบนใบหน้านับว่าเป็นปัจจัยที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่คุณสามารถทำให้ริ้วรอยดูจางลงหรือลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเลี่ยงที่อาจก่อให้เกิดริ้วรอยและหมั่นบำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดริ้วรอยได้
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ครีม เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยในนามแบรนด์ของคุณเองแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้ทางเราจึงขอปิดท้ายด้วย ‘ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ครีม’ เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกัน
- ขั้นตอนแรก คือคุณต้องติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตครีมเพื่อสอบถามสูตรของผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ ส่วนใหญ่โรงงานจะมีสูตรครีมบำรุงผิวต่าง ๆ ไว้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณต้องการปรับหรือพัฒนาให้เป็นสูตรเฉพาะก็สามารถทำได้ (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
- จากนั้นให้คุณระบุปริมาณที่ต้องการสั่งผลิตกับโรงงาน ยิ่งสั่งในจำนวนเยอะคุณก็จะได้ต้นทุนที่ถูกขึ้น ซึ่งแต่ละโรงงานจะมีขั้นต่ำในการผลิตที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะคิดเป็นกิโลกรัม เช่น ขั้นต่ำการสั่งผลิตครีมต้อง 5 กิโลกรัมเป็นต้นไป
- ทางโรงงานจะส่งใบเสนอราคาจำนวนการผลิตให้แก่คุณ
- หลังจากรับทราบราคาตามใบเสนอราคาแล้ว ลูกค้าต้องชำระเงิน 50% เพื่อให้ทางโรงงานดำเนินการผลิตได้เลย
- ต่อมาโรงงานจะเริ่มออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์หรือฉลากต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้าและพร้อมยื่นดำเนินการขึ้นทะเบียน อย. ให้
- เมื่อ อย. ผ่านแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตพร้อมกับบรรจุสินค้าลงกล่อง ซึ่งกระบวนการผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 14-30 วันขึ้นอยู่กับแต่ละโรงงาน
- หลังจากผลิตครบตามจำนวนแล้ว ลูกค้าทำการชำระเงินส่วนที่เหลือและทางโรงงานจะดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ในขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ครีมก็มีเพียงเท่านี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ซึ่งการผลิตครีมในปัจจุบันคุณไม่ต้องใช้งบประมาณที่เยอะเลยเพียงหลักหมื่นคุณก็เป็นเจ้าของแบรนด์ได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษก็คือการเลือกโรงงานผลิต โดยคุณต้องมั่นใจว่าไม่ใช่โรงงานเถื่อนซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากใบรับรอง ใบอนุญาตการผลิต การได้รับรองมาตรฐานจาก ISO, GMP หรือมาตรฐานต่าง ๆ ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
อ้างอิง :