ฝ้าและกระบนใบหน้า เป็นปัญหาที่ทำให้คุณขาดความมั่นใจหรือไม่? เพราะมันนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวหน้าที่กวนใจสาว ๆ ได้ไม่น้อยเลย ว่าแต่…คุณรู้หรือไม่ว่าฝ้าและกระเจ้ากรรมนี้เกิดขึ้นมาอยู่บนใบหน้าได้อย่างไร และวิธี ลดฝ้า กระ สามารถทำได้อย่างไรบ้างเรามาหาคำตอบกัน
สาเหตุของการเกิดฝ้าและกระ
ฝ้าและกระ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นส่วนใหญ่ เพราะรังสีเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ใต้ผิวหนังสร้างเม็ดสีมากขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ และสภาพแวดล้อมก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวประเภทนี้ได้เหมือนกัน เช่น
-
การตั้งครรภ์
ในช่วงที่คุณตั้งครรภ์จะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีระดับสูงขึ้นมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดฝ้าและกระบนใบหน้าหรือลำตัวได้ แต่เมื่อคลอดบุตรแล้วมันก็จะค่อย ๆ จางหายไปเองตามกาลเวลา
-
การกินยาคุมกำเนิด
ยาคุม จะส่งผลให้ฮอร์โมนเอสโตนเจนในนร่างกายเพิ่มระดับขึ้นและไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีเมลาโนไซท์ทำให้เกิดฝ้าและกระขึ้น ส่วนใหญ่จะพบได้ในคนที่กินยาคุมเป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป
-
เครื่องสำอาง
สิ่งเจือปนหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายบนเครื่องสำอาง เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเกิดการสะสมและทำให้หน้ามีรอยด่างดำหรือฝ้าได้
-
ความเครียด
อนุมูลอิสระในร่างกายจะถูกกระตุ้นเมื่อคุณเกิดความเครียด ซึ่งสารอนุมูลอิสระนี้เป็นตัวการที่ทำให้เม็ดสีผิวทำงานผิดปกติจึงก่อให้เกิดฝ้าหรือกระบนใบหน้าได้
-
การพักผ่อนน้อย
หากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายมีความสามารถในการขับของเสียลดลง จึงส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นและต้องขับของเสียออกทางปัสสาวะแทน ด้วยเหตุนี้ไตจึงทำงานหนักและเป็นสาเหตุให้เกิดสิว ฝ้า และกระตามมาได้
-
การเผชิญแสงแดด
หากคุณเผชิญกับแสงแดดในช่วงที่แดดจัดโดยเฉพาะเวลา 10.00-14.00 น. มักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ้าและกระเกิดขึ้นได้ เพราะแดดจะไปกระตุ้นเม็ดสีเมลานินให้มีมากขึ้น
-
รังสีจากจอคอมพิวเตอร์
หากคุณอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานรังสีจากแสงจอคอมจะส่งผลรบกวนต่อเม็ดสีเมลานินทำให้เกิดเป็นฝ้าขึ้นมาบนใบหน้าได้
10 วิธีป้องกันและลดฝ้า กระ ง่าย ๆ ไม่ต้องจ่ายแพง
- ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและมีส่วนประกอบของ PA ด้วย จึงจะสามารถป้องกันรังสีอัลตร้า UVA และ UVB ได้
- ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิดหรือสวมหมวกเพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิวหน้า
- ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินิน (Hydroquinone) ไฮโดรควินิน ถือว่าเป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการลดเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นมาได้ซึ่งมันนับว่าเป็น gold standard สำหรับวงการแพทย์ผิวหนังเลยด้วยซ้ำ แต่ตัวยาชนิดนี้หากใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้องจะทำให้ผิวเกิดความไม่สมดุลและอาจเกิดเป็นโรคผิวด่างขาวได้
- ใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ทำให้ฝ้าดูจางลงได้เป็นอย่างดี
- หลีกเลี่ยงการกินยาคุมกำเนิดที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้า หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการใช้ก่อน
- พักผ่อนให้เพียงพอ โดยนอนหลับให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- เช็ดหน้าด้วยน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลหรือที่เรียกว่า apple cider vinegar เพราะมันมีฤทธิ์เป็นกรดและมีโพแทสเซียมสูง จึงสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดฝ้าได้
- กินวิตามินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี จะช่วยลดฝ้าและทำให้ผิวแข็งแรงจากภายในส่งผลให้ช่วยลดสาเหตุของการเกิดฝ้าได้
- ทดสอบเครื่องสำอางตัวใหม่ก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อป้องกันการระคายเคืองและควรหลีกเลี่ยงเครื่อสำอางที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดฝ้าได้
- ทาครีมบำรุงที่มีสารไวท์เทนนิ่งในการปรับสภาพผิวหรือสารอื่น ๆ เช่น วิตามินซี อาร์บูติน (Arbutin) และ AHA จะช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสและลดสาเหตุของการเกิดฝ้าได้
เมื่อพูดถึงครีมทาฝ้าปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ตามท้องตลาด หากคุณอยากเป็นหนึ่งในแบรนด์ครีมที่ประสบความสำเร็จ คุณสามารถเริ่มต้นสร้างแบรนด์ครีมกับโรงงานผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือได้ ซึ่งขั้นตอนการผลิตครีมมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น โดยเริ่มจาก
- ติดต่อและเข้ามาปรึกษาที่โรงงานเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์
- เลือกสูตรผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการหรือจะร่วมวิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะกับทางโรงงานก็ได้
- จากนั้นเลือกบรรจุภัณฑ์และโลโก้โดยให้ทางโรงงานออกแบบได้ตามที่คุณต้องการ
- เมื่อผลิตภัณฑ์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว สามารถเตรียมเอกสารและยื่นขอจดทะเบียน อย. ได้เลย
- ขั้นตอนต่อมาหลังจาก อย. ผ่านแล้ว โรงงานจะดำเนินการผลิตในลำดับต่อไป
- ขั้นตอนสุดท้ายเริ่มกระบวนการผลิตและบรรจุสินค้าลงกล่องพร้อมดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ลำดับขั้นตอนการดำเนินงานของแต่ละโรงงานอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วโรงงานส่วนใหญ่ก็จะมีขั้นตอนในการสร้างแบรนด์ครีมประมาณนี้ แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างกันอีกหนึ่งประการก็คือคุณภาพและวัตถุดิบของสินค้า บางโรงงานคุณสามารถเลือกวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศษ ฯลฯ หากเลือกโรงงานดี คุณภาพสินค้าดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง
อ้างอิง :